วันพุธที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2559

หลักการวางแผนเป้าหมายชีวิต

                                                                         



ระดับของการวางแผนเป้าหมายชีวิตของบุคคล 


1. ความสำคัญของการวางแผนเป้าหมายชีวิต

1.1การวางแผนเป้าหมายชีวิตขั้นต้นเป็นการวางแผนตั้งเป้าหมายของชีวิตโดยมุ่งมั่นฝึกฝนตนเองให้บรรลุเป้าหมายของชีวิตโดยมุ่งมั่นฝึกฝนตนเองให้บรรลุเป้าหมายของชีวิตว่าจะต้องเรียนให้จบมีอาชีพมีฐานะที่ดีให้ได้ด้วยองค์ประกอบต่างๆเช่นการประพฤติตนเป็นคนดีไม่ทำตัวเป็นปัญหาไม่ทำผิดกฎหมายและตั้งเป้าหมายว่าจะประกอบอาชีพอะไรเช่นครู พยาบาล ตำรวจ ทหาร ชาวนา หรืออื่น ๆ ที่เป็นอาชีพที่สุจริต
1.2การวางแผนเป้าหมายชีวิตขั้นกลางเป็นการตั้งเป้าหมายของชีวิตว่า ต้องพยายามตั้งตัวและสร้างฐานะของตนเองมีชีวิตคู่มีชีวิตครอบครัวมีลูกที่ดีในชีวิตนี้จะไม่ย่อท้อรู้จักการสร้างคุณค่าให้ชีวิตด้วยความขยันตั้งใจทำความดีเอื้ออาทรมีเมตตาต่อผู้อื่น ซึ่งเป็นเป้าหมายชีวิตสูงสุด
3การวางแผนเป้าหมายชีวิตขั้นสูงสุดเป็นการตั้งเป้าหมายของชีวิตที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งทั้งต่อตนเอง และบุคคลอื่น คือ การตั้งใจดำเนินชีวิตให้ประสบความสำเร็จในการศึกษาเล่าเรียน หน้าที่การงาน ชีวิตครอบครัว และตั้งใจปฏิบัติธรรมทุกรูปแบบโดยการตั้งใจทำความดีหมั่นให้ทานรักษาศีล 


                                                                  
    ภาพประกอบที่ 

2.เรื่องการเลือกคู่ครองที่ดีนำมาสู่ครอบครัวที่มีความสุข            
2.1 ไม่ควรเลือกคู่ครองที่แตกต่างกันมาก จะเกิดความขัดแย้งกันได้มาก เพราะช่องว่างที่เกิดขึ้นอาจทำให้ไม่เข้าใจกัน และกลายเป็นจุดขัดแย้งต่อไป
2.1 ไม่ควรเลือกเพียงเพราะหน้าตา รูปร่างที่ประทับใจแต่ควรมองลึกเข้าไปในบุคลิกภาพและจิตใจ ว่าเหมาะสมกันดีเพียงใด
2.3 ไม่ควรเลือกคู่ครองเพราะหวังสมบัติโดยไม่คำนึกถึงคุณสมบัติด้านอื่น ๆ อาจทำให้ผิดหวังได้ภายหลังถ้าแต่งงานมีลูกต่อไปลูกไม่ได้เกิดจากความรักของพ่อแม่ทำให้เด็กต้องเติบโตขึ้นมาในสิ่งแวดล้อมของครอบครัวที่ไม่ได้มีความรักต่อกันเด็กจะเติบโตเป็นคนที่ไม่มีความสุขและอาจเป็นปัญหาสังคมต่อไปได้
2.4ไม่ควรเลือกคนที่ติดการพนันอาจทำให้ครอบครัวไม่มั่นคงทางการเงินและมีปัญหาหนี้สิน
2.5 ไม่ควรเลือกคนที่มีปัญหาบุคลิกภาพแปรปรวนจะทำให้การดำเนินชีวิตครอบครัวเป็นไปด้วยความยากเย็นและจบลงด้วยปัญหาการหย่าร้างไม่ควรเลือกบุคคลที่มีความเสี่ยงต่อพฤติกรรมรุนแรง เช่น ดื่มสุราแล้วชอบทำร้ายร่างกาย


ภาพประกอบที่ 



3.เรื่องความเข้าใจและรู้จักข้อดีข้อเสียของเป็นพื้นฐานของการแต่งงาน 
       
        การแต่งงาน คือการที่ชายหญิงสมัครใจมาอยู่กินและใช้ชีวิตร่วมกันฉันสามีภรรยา โดยไม่เกี่ยวข้องทางชู้สาวกับบุคคลอื่นใดมีความผูกพันซึ่งกันและกันทั้งทางกฎหมายและวัฒนธรรม ช่วยกันเสริมสร้างรากฐานของครอบครัวให้มั่นคง มีบุตรธิดาสืบวงศ์ตระกูลต่อไป การที่ชายหญิงจะประสบความสำเร็จในชีวิตการแต่งงานมิใช่เรื่องง่ายแม้ว่าจะมีความรัก เป็นพื้นฐานที่สำคัญก็ช่วยได้ไม่มากนัก คู่สมรสต้องทำความเข้าใจ ศึกษาซึ่งกันและกันรับรู้ทั้งข้อดีและข้อเสียซึ่งกันและกันรู้จักสภาวะอารมณ์ความต้องการความสนใจอุปนิสัยใจคอ เจตคติต่าง ๆ ของคู่ครอง ตลอดจนรู้จักการผ่อนปรนและให้อภัยซึ่งกันและกัน นอกจากความเข้าใจซึ่งกันและกันแล้วคู่สมรสจะต้องวางแผนในการดำเนินชีวิตร่วมกันทั้งด้านการปรับตัวนิสัยใจคอ การใช้เงิน การงาน การพักผ่อนและการสังคมตลอดจนการมีบุตรซึ่งจะต้องคำนึงถึงอนาคตเป็นสิ่งสำคัญ
3.1 การวางแผนตรวจสุขภาพก่อนมีบุตร                                         
3.1.1 การตรวจสุขภาพเบื้องต้นและตรวจทางห้องปฏิบัติการ เช่น การวัดความดันโลหิต ชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง ตรวจร่างกายทั่วไปทุกระบบ เพื่อให้ทราบถึงความสมบูรณ์และความพร้อมของร่างกายทั้งชายและหญิงที่จะเป็นผู้กำเนิดทารกน้อยซึ่งจะต้องมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงและสามารถวินิจฉัยโรคบางอย่างที่ไม่แสดงอาการได้    3.1.2 ตรวจปัสสาวะ เพื่อค้นหาโรคเบาหวาน โรคไต และโรคอื่น ๆ ซึ่งเป็นโรคที่มีผลต่อการตั้งครรภ์ได้
 3.1.3 การตรวจเอกซเรย์ปอด เพื่อตรวจดูความแข็งแรงของปอด หากพบว่า ฝ่ายหนึ่งฝ่าย ใดเป็นวัณโรคก็จะได้รักษาให้หายก่อนแต่งงานเพราะเชื้อจะแพร่ไปสู่อีกฝ่ายได้ทางการหายใจ
 3.1.4 การตรวจเลือด เพื่อให้ทราบถึงกลุ่มเลือด (หมู่เลือด) ความเข้มข้นของเม็ดเลือด
 3.1.5 ตรวจหาภูมิคุ้มกันไวรัวตับอักเสบบี เพราะไวรัสตับอักเสบบีมักเป็นสาเหตุโรคตับแข็งและมะเร็งตับ การตรวจหาเชื้อจึงเป็นวิธีการเพื่อป้องกันก่อนที่จะถ่ายทอดไปสู่อีกฝ่าย หากตรวจแล้วพบว่า ไม่มีภูมิคุ้มกัน ควรฉีดวัคซีนป้องกันทั้งชายและหญิง
 3.1.6 ตรวจสอบภูมิคุ้มกันบกพร่อง HIV หรือเอดส์ หากพบว่าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดมีการติดเชื้อ HIV ก็จะได้หาวิธีการป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายหนึ่งได้รับเชื้อไปด้วย แต่ถ้าทั้งสองฝ่ายมีเชื้อ HIV และไม่ต้องการมีลูก ควรป้องกันด้วยการใส่ถุงยางทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์



ภาพประกอบที่

4. การวางแผนตรวจสุขภาพก่อนมีบุตร

4.1 ตรวจหาเชื้อซิฟิลิส เพราะหากมีเชื้อของอีกฝ่ายควรรีบรักษาเสียก่อน เพราะโรคนี้สามารถรักษาให้หายขาดได้
4.2 ตรวจหาโรคธารัสซีเมีย โรคธารัสซีเมียเป็นโรคโลหิตจางที่มีการถ่ายทอดทางพรรมพันธุ์ ฉะนั้น การตรวจเลือดเพื่อค้นหาโรคธารัสซีเมียจึงเป็นเรื่องสำคัญที่คู่แต่งงานไม่ควรมองข้ามการฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัดเยอรมันฝ่ายหญิงควรรับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัสเยอรมันก่อนตั้งครรภ์อย่างน้อย 3 เดือน เพื่อป้องกันการติดเชื้อในทารก การติดเชื้ออาจทำให้ทารกพิการและเสียชีวิต

4.4เทคนิคการวางแผนเป้าหมายสู่ความสำเร็จในชีวิตมีคนจำนวนมากในสังคมที่ไม่เข้าใจและละเลยการวางแผนเป้าหมายชีวิตในอนาคตว่าอีก 5 ปี 10 ปีข้างหน้าอยากจะได้อะไร อยากจะเป็นอะไร หรืออยากจะมีอะไรบ้าง บางคนมีการกำหนดเป้าหมายไว้ชัดเจน แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะว่ากำหนดเป้าหมายให้ตัวเองอยากเกินไป ทำอย่างไรก็ไม่สำเร็จ เช่น บางคนตั้งเป้าหมายว่าจะเก็บออมเงินให้ได้ปีละหนึ่งแสนบาท แต่ในความเป็นจริงมีรายได้เพียงปีละสองแสนบาท ถ้าคิดเป็นเปอร์เซ็นต์เงินเก็บออมต่อรายได้แล้วต้องออม ประมาณ 50% ซึ่งไม่น่าจะเป็นไปได้ ถ้าเขาไม่มีรายได้จากแหล่งอื่น ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เป้าหมายของหลายคนไม่ประสบความสำเร็จ
มีคนอีกจำนวนไม่น้อยที่กำหนดเป้าหมายชีวิต แต่มีการเปลี่ยนเป้าหมายบ่อยเกินไป จึงกลายเป็นเป้าบิน ทำให้พลาดเป้า เพราะมีเป้าหมายมากเกินไป เช่น วันนี้มีคนเล่าให้ฟังเรื่องธุรกิจส่วนตัวก็ตั้งเป้าเรื่องธุรกิจส่วนตัว พรุ่งนี้มีคนพูดเรื่องงานใหม่เงินเดือนดีกว่าเดิม เป้าหมายในการเปลี่ยนงานเพื่อก้าวสู่การเป็นผู้บริหารระดับสูงก็เกิดขึ้นมาอีก จึงมีเป้าหมายไม่แน่นอน เพื่อให้ท่านที่ต้องการกำหนดเป้าหมายในชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นและ สามารถก้าวไปสู่ความสำเร็จในชีวิตได้ดีกว่าและเร็วกว่าที่คาดหวังไว้ พอจะสรุปแนวทางในการวางแผนเป้าหมายชีวิตไว้ ดังนี้

 ภาพประกอบที่


5.คือการหาความฝันของตัวเองให้พบ
5.1 หาความฝันของตัวเองให้พบจุดเริ่มต้นของการกำหนดเป้าหมายในชีวิตคือ การถามตัวเองว่า ในอนาคตเราอยากจะเป็นอะไร อยากจะมีอะไร อยากจะได้อะไร อยากจะเป็นเหมือนใคร แค่ไหน เมื่อไหร่ เพราะถ้าเราไม่สามารถตอบคำถามนี้ได้ เราจะกำหนดเป้าหมายที่ดีไม่ได้เช่นกัน เหมือนกับการที่เราออกไปตลาดเพื่อซื้อของมาทำอาหาร ถ้าเราไม่มีรายการอาหารอยู่ในใจ คิดเพียงว่าไปดูก่อนแล้วกันค่อยคิดว่าจะทำอะไรรับประทาน ซึ่งต้องใช้เวลาเดินตลาดนานมาก และอาจไม่มีอะไรถูกใจเลยสักอย่างเดียว ผิดกับคนที่คิดรายการอาหารไปจากบ้าน พอไปถึงตลาดก็สามารถเดินไปเฉพาะจุดที่ต้องการจะซื้อได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลาเดินวนไปวนมาถึงแม้รายการอาหารที่เราต้องการไม่มี แต่ถ้าเรามีรายการอาหารสำรองอยู่ เราก็สามารถเปลี่ยนรายการซื้อของได้ทันท่วงที ดังนั้น ใครที่ยังค้นหาตัวเองให้พบก็ไม่ต่างอะไรไปจากคนที่ไปตลาด แล้วค่อยคิดว่าจะซื้ออะไรมาทำอาหาร
5..2 วิเคราะห์หาความชอบของตัวเองบุคคลที่กำลังทำงานเป็นลูกจ้างอยู่และคิดจะออกมาทำธุรกิจส่วนตัว ก็ก็ควรเลือกทำในสิ่งที่ตัวเองถนัด ตัวเองชอบเป็นอันดับแรก เพราะธุรกิจที่เราทำเราจะต้องอยู่กับมันนาน และถ้าใครเลือกทำธุรกิจที่ตัวเองไม่มีความรักความชอบเป็นพื้นฐานแล้ว จะทำได้ไม่ดี เช่น ไม่ชอบเล่นเกม แต่อยากทำธุรกิจร้านวีดีโอเกม เป็นต้น
5.3 ตั้งเป้าหมายให้ท้าทาย  การตั้งเป้าหมายในชีวิตควรจะเป็นเป้าหมายที่ท้าทายซึ่งหมายถึงเป้าหมายที่ไม่ง่ายจนเกินไป เช่น ก่อนเกษียณอายุจากลูกจ้าง ควรจะดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่อาวุโส (ไม่ใช่ไม่ทำอะไร อยู่ไปนาน ๆ อายุงานมากกว่าคนอื่น) และไม่ควรตั้งเป้าหมายที่อยากเกินไป เช่น ต้องการเก็บเงินเดือนละห้าพันบาททั้ง ๆ ที่ได้เดือน ๆ ละ หมื่นบาท
5.4 ควรจะมีเป้าหมายหลักและเป้ารองการตั้งเป้าหมายในชีวิตที่ดี ควรจะมีเป้าหมายหลักและเป้าหมายรองที่สอดคล้องกันเพราะถ้าเป้าหมายหลักมีปัญหาอุปสรรคหรือเป็นไปไม่ได้จะได้นำสิ่งที่ลงทุนไปกับเป้าหมายหลักมาใช้ประโยชน์กับเป้าหมายรองได้ การกำหนดเป้าหมายในชีวิตไม่จำเป็นว่าจะกำหนดครั้งเดียวแล้วใช้ได้ตลอดไปเราควรจะทบทวนความสำเร็จของเป้าหมายที่กำหนดไว้เป็นระยะๆ ว่าควรจะมีการปรับเปลี่ยนเป้าหมายหรือไม่ อย่างไร
5.5 การบริหารธุรกิจชีวิตสู่ความสำเร็จอาจกล่าวได้ว่าการดำเนินชีวิตของคนเราคือการบริหารธุรกิจประเภทหนึ่งที่เป้าหมายสุดท้ายคือกำไร กำไรในที่นี้มิได้หมายถึงสิ่งที่เป็นตัวเงิน แต่หมายถึง “ความสำเร็จ” ดังนั้น ถ้าเป้าหมายของธุรกิจชีวิตเราคือความสำเร็จ เราคงต้องเริ่มบริหารชีวิตอย่างมีกลยุทธ์มากขึ้นหลายคนสูญเสียเวลาแห่งชีวิตไปกับเรื่องที่ไร้สาระ ปล่อยเวลาให้ล่วงเลยไปกับเข็มนาฬิกา ปล่อยให้โอกาสล่องลอยไปกับสายลมและแสงแดด คนหลายคนมีคำว่า “เสียดาย” อยู่เต็มหัว เพราะมารู้สึกตัวในเรื่องต่าง ๆ หรือคิดได้ก็สายไปเสียแล้ว กว่าจะรู้การออกกำลังกายเป็นสิ่งจำเป็นและสำคัญก็เจ็บป่วยไปเรียบร้อยแล้วกว่าจะรู้ว่าครอบครัวสำคัญก็เกิดปัญหาครอบครัวแตกแยกไปแล้วกว่าจะรู้ว่าความสามารถยังไม่ถึงก็ต่อเมื่อโอกาสดีผ่านไปแล้ว เพื่อให้ชีวิตมุ่งไปสู่วัตถุประสงค์ที่แท้จริงของชีวิตคือความสำเร็จเราจึงต้องมีการบริหารชีวิตตามแนวทางการบริหารธุรกิจชีวิตอย่างจริงจัง เพื่อให้มั่นใจได้ว่า เราไม่ได้ละเลย หลงลืมหรือแกล้งลืมทำบางสิ่งบางอย่างในชีวิตในเวลาที่ควรจะทำนั่นคือ ป้องกันว่า “เสียดาย” อย่าให้เกิดขึ้นกับชีวิตของเรา จึงขอแนะนำทางในการบริหารธุรกิจชีวิต                              
    

     

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น