หลักการวางแผนเป้าหมายชีวิต
ระดับของการวางแผนเป้าหมายชีวิตของบุคคล
1. ความสำคัญของการวางแผนเป้าหมายชีวิต
1.1การวางแผนเป้าหมายชีวิตขั้นต้นเป็นการวางแผนตั้งเป้าหมายของชีวิตโดยมุ่งมั่นฝึกฝนตนเองให้บรรลุเป้าหมายของชีวิตโดยมุ่งมั่นฝึกฝนตนเองให้บรรลุเป้าหมายของชีวิตว่าจะต้องเรียนให้จบมีอาชีพมีฐานะที่ดีให้ได้ด้วยองค์ประกอบต่างๆเช่นการประพฤติตนเป็นคนดีไม่ทำตัวเป็นปัญหาไม่ทำผิดกฎหมายและตั้งเป้าหมายว่าจะประกอบอาชีพอะไรเช่นครู
พยาบาล ตำรวจ ทหาร ชาวนา หรืออื่น ๆ ที่เป็นอาชีพที่สุจริต
1.2การวางแผนเป้าหมายชีวิตขั้นกลางเป็นการตั้งเป้าหมายของชีวิตว่า
ต้องพยายามตั้งตัวและสร้างฐานะของตนเองมีชีวิตคู่มีชีวิตครอบครัวมีลูกที่ดีในชีวิตนี้จะไม่ย่อท้อรู้จักการสร้างคุณค่าให้ชีวิตด้วยความขยันตั้งใจทำความดีเอื้ออาทรมีเมตตาต่อผู้อื่น ซึ่งเป็นเป้าหมายชีวิตสูงสุด
3การวางแผนเป้าหมายชีวิตขั้นสูงสุดเป็นการตั้งเป้าหมายของชีวิตที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งทั้งต่อตนเอง
และบุคคลอื่น คือ การตั้งใจดำเนินชีวิตให้ประสบความสำเร็จในการศึกษาเล่าเรียน
หน้าที่การงาน ชีวิตครอบครัว
และตั้งใจปฏิบัติธรรมทุกรูปแบบโดยการตั้งใจทำความดีหมั่นให้ทานรักษาศีล
ภาพประกอบที่
2.1 ไม่ควรเลือกคู่ครองที่แตกต่างกันมาก จะเกิดความขัดแย้งกันได้มาก
เพราะช่องว่างที่เกิดขึ้นอาจทำให้ไม่เข้าใจกัน และกลายเป็นจุดขัดแย้งต่อไป
2.เรื่องการเลือกคู่ครองที่ดีนำมาสู่ครอบครัวที่มีความสุข
2.1 ไม่ควรเลือกเพียงเพราะหน้าตา รูปร่างที่ประทับใจแต่ควรมองลึกเข้าไปในบุคลิกภาพและจิตใจ ว่าเหมาะสมกันดีเพียงใด
2.3 ไม่ควรเลือกคู่ครองเพราะหวังสมบัติโดยไม่คำนึกถึงคุณสมบัติด้านอื่น ๆ อาจทำให้ผิดหวังได้ภายหลังถ้าแต่งงานมีลูกต่อไปลูกไม่ได้เกิดจากความรักของพ่อแม่ทำให้เด็กต้องเติบโตขึ้นมาในสิ่งแวดล้อมของครอบครัวที่ไม่ได้มีความรักต่อกันเด็กจะเติบโตเป็นคนที่ไม่มีความสุขและอาจเป็นปัญหาสังคมต่อไปได้
2.4ไม่ควรเลือกคนที่ติดการพนันอาจทำให้ครอบครัวไม่มั่นคงทางการเงินและมีปัญหาหนี้สิน
2.5 ไม่ควรเลือกคนที่มีปัญหาบุคลิกภาพแปรปรวนจะทำให้การดำเนินชีวิตครอบครัวเป็นไปด้วยความยากเย็นและจบลงด้วยปัญหาการหย่าร้างไม่ควรเลือกบุคคลที่มีความเสี่ยงต่อพฤติกรรมรุนแรง เช่น
ดื่มสุราแล้วชอบทำร้ายร่างกาย
ภาพประกอบที่
3.เรื่องความเข้าใจและรู้จักข้อดีข้อเสียของเป็นพื้นฐานของการแต่งงาน
การแต่งงาน คือการที่ชายหญิงสมัครใจมาอยู่กินและใช้ชีวิตร่วมกันฉันสามีภรรยา
โดยไม่เกี่ยวข้องทางชู้สาวกับบุคคลอื่นใดมีความผูกพันซึ่งกันและกันทั้งทางกฎหมายและวัฒนธรรม
ช่วยกันเสริมสร้างรากฐานของครอบครัวให้มั่นคง มีบุตรธิดาสืบวงศ์ตระกูลต่อไป การที่ชายหญิงจะประสบความสำเร็จในชีวิตการแต่งงานมิใช่เรื่องง่ายแม้ว่าจะมีความรัก
เป็นพื้นฐานที่สำคัญก็ช่วยได้ไม่มากนัก คู่สมรสต้องทำความเข้าใจ
ศึกษาซึ่งกันและกันรับรู้ทั้งข้อดีและข้อเสียซึ่งกันและกันรู้จักสภาวะอารมณ์ความต้องการความสนใจอุปนิสัยใจคอ เจตคติต่าง ๆ ของคู่ครอง
ตลอดจนรู้จักการผ่อนปรนและให้อภัยซึ่งกันและกัน นอกจากความเข้าใจซึ่งกันและกันแล้วคู่สมรสจะต้องวางแผนในการดำเนินชีวิตร่วมกันทั้งด้านการปรับตัวนิสัยใจคอ
การใช้เงิน การงาน การพักผ่อนและการสังคมตลอดจนการมีบุตรซึ่งจะต้องคำนึงถึงอนาคตเป็นสิ่งสำคัญ
3.1 การวางแผนตรวจสุขภาพก่อนมีบุตร
3.1.1 การตรวจสุขภาพเบื้องต้นและตรวจทางห้องปฏิบัติการ เช่น การวัดความดันโลหิต ชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง ตรวจร่างกายทั่วไปทุกระบบ
เพื่อให้ทราบถึงความสมบูรณ์และความพร้อมของร่างกายทั้งชายและหญิงที่จะเป็นผู้กำเนิดทารกน้อยซึ่งจะต้องมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงและสามารถวินิจฉัยโรคบางอย่างที่ไม่แสดงอาการได้
3.1.2 ตรวจปัสสาวะ เพื่อค้นหาโรคเบาหวาน โรคไต
และโรคอื่น ๆ ซึ่งเป็นโรคที่มีผลต่อการตั้งครรภ์ได้
3.1.3 การตรวจเอกซเรย์ปอด เพื่อตรวจดูความแข็งแรงของปอด
หากพบว่า ฝ่ายหนึ่งฝ่าย ใดเป็นวัณโรคก็จะได้รักษาให้หายก่อนแต่งงานเพราะเชื้อจะแพร่ไปสู่อีกฝ่ายได้ทางการหายใจ
3.1.4 การตรวจเลือด เพื่อให้ทราบถึงกลุ่มเลือด
(หมู่เลือด) ความเข้มข้นของเม็ดเลือด
3.1.5 ตรวจหาภูมิคุ้มกันไวรัวตับอักเสบบี เพราะไวรัสตับอักเสบบีมักเป็นสาเหตุโรคตับแข็งและมะเร็งตับ
การตรวจหาเชื้อจึงเป็นวิธีการเพื่อป้องกันก่อนที่จะถ่ายทอดไปสู่อีกฝ่าย
หากตรวจแล้วพบว่า ไม่มีภูมิคุ้มกัน ควรฉีดวัคซีนป้องกันทั้งชายและหญิง
3.1.6 ตรวจสอบภูมิคุ้มกันบกพร่อง HIV หรือเอดส์ หากพบว่าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดมีการติดเชื้อ HIV ก็จะได้หาวิธีการป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายหนึ่งได้รับเชื้อไปด้วย
แต่ถ้าทั้งสองฝ่ายมีเชื้อ HIV และไม่ต้องการมีลูก
ควรป้องกันด้วยการใส่ถุงยางทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์
ภาพประกอบที่
4. การวางแผนตรวจสุขภาพก่อนมีบุตร
4.1 ตรวจหาเชื้อซิฟิลิส เพราะหากมีเชื้อของอีกฝ่ายควรรีบรักษาเสียก่อน
เพราะโรคนี้สามารถรักษาให้หายขาดได้
4.2 ตรวจหาโรคธารัสซีเมีย โรคธารัสซีเมียเป็นโรคโลหิตจางที่มีการถ่ายทอดทางพรรมพันธุ์
ฉะนั้น การตรวจเลือดเพื่อค้นหาโรคธารัสซีเมียจึงเป็นเรื่องสำคัญที่คู่แต่งงานไม่ควรมองข้ามการฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัดเยอรมันฝ่ายหญิงควรรับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัสเยอรมันก่อนตั้งครรภ์อย่างน้อย 3 เดือน เพื่อป้องกันการติดเชื้อในทารก
การติดเชื้ออาจทำให้ทารกพิการและเสียชีวิต
4.4เทคนิคการวางแผนเป้าหมายสู่ความสำเร็จในชีวิตมีคนจำนวนมากในสังคมที่ไม่เข้าใจและละเลยการวางแผนเป้าหมายชีวิตในอนาคตว่าอีก 5 ปี 10 ปีข้างหน้าอยากจะได้อะไร
อยากจะเป็นอะไร หรืออยากจะมีอะไรบ้าง บางคนมีการกำหนดเป้าหมายไว้ชัดเจน
แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะว่ากำหนดเป้าหมายให้ตัวเองอยากเกินไป
ทำอย่างไรก็ไม่สำเร็จ เช่น
บางคนตั้งเป้าหมายว่าจะเก็บออมเงินให้ได้ปีละหนึ่งแสนบาท แต่ในความเป็นจริงมีรายได้เพียงปีละสองแสนบาท
ถ้าคิดเป็นเปอร์เซ็นต์เงินเก็บออมต่อรายได้แล้วต้องออม ประมาณ 50% ซึ่งไม่น่าจะเป็นไปได้ ถ้าเขาไม่มีรายได้จากแหล่งอื่น
ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เป้าหมายของหลายคนไม่ประสบความสำเร็จ
มีคนอีกจำนวนไม่น้อยที่กำหนดเป้าหมายชีวิต
แต่มีการเปลี่ยนเป้าหมายบ่อยเกินไป จึงกลายเป็นเป้าบิน ทำให้พลาดเป้า
เพราะมีเป้าหมายมากเกินไป เช่น
วันนี้มีคนเล่าให้ฟังเรื่องธุรกิจส่วนตัวก็ตั้งเป้าเรื่องธุรกิจส่วนตัว
พรุ่งนี้มีคนพูดเรื่องงานใหม่เงินเดือนดีกว่าเดิม
เป้าหมายในการเปลี่ยนงานเพื่อก้าวสู่การเป็นผู้บริหารระดับสูงก็เกิดขึ้นมาอีก
จึงมีเป้าหมายไม่แน่นอน
เพื่อให้ท่านที่ต้องการกำหนดเป้าหมายในชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นและ
สามารถก้าวไปสู่ความสำเร็จในชีวิตได้ดีกว่าและเร็วกว่าที่คาดหวังไว้
พอจะสรุปแนวทางในการวางแผนเป้าหมายชีวิตไว้ ดังนี้
ภาพประกอบที่
5.คือการหาความฝันของตัวเองให้พบ
5.1 หาความฝันของตัวเองให้พบจุดเริ่มต้นของการกำหนดเป้าหมายในชีวิตคือ
การถามตัวเองว่า ในอนาคตเราอยากจะเป็นอะไร อยากจะมีอะไร อยากจะได้อะไร
อยากจะเป็นเหมือนใคร แค่ไหน เมื่อไหร่ เพราะถ้าเราไม่สามารถตอบคำถามนี้ได้ เราจะกำหนดเป้าหมายที่ดีไม่ได้เช่นกัน
เหมือนกับการที่เราออกไปตลาดเพื่อซื้อของมาทำอาหาร ถ้าเราไม่มีรายการอาหารอยู่ในใจ
คิดเพียงว่าไปดูก่อนแล้วกันค่อยคิดว่าจะทำอะไรรับประทาน
ซึ่งต้องใช้เวลาเดินตลาดนานมาก และอาจไม่มีอะไรถูกใจเลยสักอย่างเดียว
ผิดกับคนที่คิดรายการอาหารไปจากบ้าน
พอไปถึงตลาดก็สามารถเดินไปเฉพาะจุดที่ต้องการจะซื้อได้ทันที
ไม่ต้องเสียเวลาเดินวนไปวนมาถึงแม้รายการอาหารที่เราต้องการไม่มี
แต่ถ้าเรามีรายการอาหารสำรองอยู่ เราก็สามารถเปลี่ยนรายการซื้อของได้ทันท่วงที
ดังนั้น ใครที่ยังค้นหาตัวเองให้พบก็ไม่ต่างอะไรไปจากคนที่ไปตลาด
แล้วค่อยคิดว่าจะซื้ออะไรมาทำอาหาร
5..2 วิเคราะห์หาความชอบของตัวเองบุคคลที่กำลังทำงานเป็นลูกจ้างอยู่และคิดจะออกมาทำธุรกิจส่วนตัว
ก็ก็ควรเลือกทำในสิ่งที่ตัวเองถนัด ตัวเองชอบเป็นอันดับแรก
เพราะธุรกิจที่เราทำเราจะต้องอยู่กับมันนาน
และถ้าใครเลือกทำธุรกิจที่ตัวเองไม่มีความรักความชอบเป็นพื้นฐานแล้ว จะทำได้ไม่ดี
เช่น ไม่ชอบเล่นเกม แต่อยากทำธุรกิจร้านวีดีโอเกม เป็นต้น
5.3 ตั้งเป้าหมายให้ท้าทาย การตั้งเป้าหมายในชีวิตควรจะเป็นเป้าหมายที่ท้าทายซึ่งหมายถึงเป้าหมายที่ไม่ง่ายจนเกินไป เช่น ก่อนเกษียณอายุจากลูกจ้าง ควรจะดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่อาวุโส (ไม่ใช่ไม่ทำอะไร อยู่ไปนาน ๆ อายุงานมากกว่าคนอื่น) และไม่ควรตั้งเป้าหมายที่อยากเกินไป เช่น ต้องการเก็บเงินเดือนละห้าพันบาททั้ง ๆ ที่ได้เดือน ๆ ละ หมื่นบาท
5.3 ตั้งเป้าหมายให้ท้าทาย การตั้งเป้าหมายในชีวิตควรจะเป็นเป้าหมายที่ท้าทายซึ่งหมายถึงเป้าหมายที่ไม่ง่ายจนเกินไป เช่น ก่อนเกษียณอายุจากลูกจ้าง ควรจะดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่อาวุโส (ไม่ใช่ไม่ทำอะไร อยู่ไปนาน ๆ อายุงานมากกว่าคนอื่น) และไม่ควรตั้งเป้าหมายที่อยากเกินไป เช่น ต้องการเก็บเงินเดือนละห้าพันบาททั้ง ๆ ที่ได้เดือน ๆ ละ หมื่นบาท
5.4 ควรจะมีเป้าหมายหลักและเป้ารองการตั้งเป้าหมายในชีวิตที่ดี
ควรจะมีเป้าหมายหลักและเป้าหมายรองที่สอดคล้องกันเพราะถ้าเป้าหมายหลักมีปัญหาอุปสรรคหรือเป็นไปไม่ได้จะได้นำสิ่งที่ลงทุนไปกับเป้าหมายหลักมาใช้ประโยชน์กับเป้าหมายรองได้
การกำหนดเป้าหมายในชีวิตไม่จำเป็นว่าจะกำหนดครั้งเดียวแล้วใช้ได้ตลอดไปเราควรจะทบทวนความสำเร็จของเป้าหมายที่กำหนดไว้เป็นระยะๆ
ว่าควรจะมีการปรับเปลี่ยนเป้าหมายหรือไม่ อย่างไร
5.5 การบริหารธุรกิจชีวิตสู่ความสำเร็จอาจกล่าวได้ว่าการดำเนินชีวิตของคนเราคือการบริหารธุรกิจประเภทหนึ่งที่เป้าหมายสุดท้ายคือกำไร
กำไรในที่นี้มิได้หมายถึงสิ่งที่เป็นตัวเงิน แต่หมายถึง “ความสำเร็จ” ดังนั้น ถ้าเป้าหมายของธุรกิจชีวิตเราคือความสำเร็จ
เราคงต้องเริ่มบริหารชีวิตอย่างมีกลยุทธ์มากขึ้นหลายคนสูญเสียเวลาแห่งชีวิตไปกับเรื่องที่ไร้สาระ
ปล่อยเวลาให้ล่วงเลยไปกับเข็มนาฬิกา ปล่อยให้โอกาสล่องลอยไปกับสายลมและแสงแดด
คนหลายคนมีคำว่า “เสียดาย” อยู่เต็มหัว
เพราะมารู้สึกตัวในเรื่องต่าง ๆ หรือคิดได้ก็สายไปเสียแล้ว
กว่าจะรู้การออกกำลังกายเป็นสิ่งจำเป็นและสำคัญก็เจ็บป่วยไปเรียบร้อยแล้วกว่าจะรู้ว่าครอบครัวสำคัญก็เกิดปัญหาครอบครัวแตกแยกไปแล้วกว่าจะรู้ว่าความสามารถยังไม่ถึงก็ต่อเมื่อโอกาสดีผ่านไปแล้ว เพื่อให้ชีวิตมุ่งไปสู่วัตถุประสงค์ที่แท้จริงของชีวิตคือความสำเร็จเราจึงต้องมีการบริหารชีวิตตามแนวทางการบริหารธุรกิจชีวิตอย่างจริงจัง
เพื่อให้มั่นใจได้ว่า เราไม่ได้ละเลย
หลงลืมหรือแกล้งลืมทำบางสิ่งบางอย่างในชีวิตในเวลาที่ควรจะทำนั่นคือ ป้องกันว่า “เสียดาย” อย่าให้เกิดขึ้นกับชีวิตของเรา
จึงขอแนะนำทางในการบริหารธุรกิจชีวิต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น