บทที่ 3 องค์กรและการบริหารงานภายในองค์กร
ความหมายของการจัดองค์กร
ความหมายของการจัดองค์กร
การจัดองค์กรเป็นกิจกรรมที่ทำเกี่ยวกับการจัดโครงสร้างขององค์กร
โดยพิจารณาว่า การที่จะทำให้ได้บรรลุตามเป้าหมายที่กำหนดไว้นั้น ต้องมีงานอะไรบ้าง
และงานแต่ละอย่างจะสามารถจัดแบ่งกลุ่มงานได้อย่างไร
มีใครบ้างเป็นผู้รับผิดชอบในแต่ละส่วนงานนั้นและมีการรายงานบังคับบัญชาตามลำดับขั้นอย่างไรใครเป็นผู้มีอำนาจในการตัดสินใจมีนักวิชาการได้ให้ความหมายขององค์กรไว้
ดังนี้
เอ็ดวิน ฟลิปโป (Edwin B. Flippo) ได้ให้ความหมายของการจัดองค์ไว้ว่า
"การจัดองค์กร หมายถึงการจัดความสัมพันธ์ระหว่างส่วนต่างๆ คือ ตัวบุคคลและหน้าที่การงาน
เพื่อรวมกันเข้าเป็นหน่วยงานที่มีประสิทธิภาพ สามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้" (Edwin B. Flippo, 1970: 129)
มูนีย์ และไรลีย์ (Moonney and
Reiley) ได้กล่าวถึงการจัดองค์กรไว้ว่า"องค์กรหมายถึงความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์เพื่อทำงานให้สำเร็จร่วมกันการจัดองค์กรจึงเป็นการจัดหน้าที่การงานให้ประสานสัมพันธ์กัน"
(James D. Mooney and Alan C. Reiley,
1939:1-4)
เซอร์โต(SamuelC.Certo)กล่าวไว้ว่า"การจัดองค์กร
(Organizing) เป็นกระบวนการจัดสรรการใช้ทรัพยากรภายในระบบการจัดการอย่างเป็นลำดับการใช้ทรัพยากรอย่างเป็นลำดับนั้น
เน้นกรบรรลุเป้าหมายของระบบการจัดการช่วยให้ผู้บริหารมีการกำหนดวัถตุประสงค์ที่ชัดเจนและการจัดสรรทรัพยากรเพื่อให้ได้มาซึ่งเป้าหมายที่ตั้งไว้สิ่งสำคัญที่สุดในการจัดองค์กร
คือ การกำหนดกิจกรรมของบุคลากรแต่ละคนในองค์กรร่วมกับการกำหนดความพยายามที่ดีที่สุดในการทำกิจกรรมเพื่อให้ได้มาซึ่งประสิทธิภาพผลตามวัตถุประสงค์ที่องค์กรได้ตั้งไว้ส่วนคำว่าองค์กร(Organization)เป็นผลลัพธ์ที่ได้จากกระบวนการจัดองค์กร"(SamuelC.Certo, แปลโดย พัชนี นนทศักดิ์ และคณะ,2552: 141)
สมคิด บางโม ให้ความเห็นไว้ว่า "การจัดองค์กร หมายถึง การจัดแบ่งองค์กรออกเป็นหน่วยงานย่อย
ๆ
ให้ครอบคลุมภารกิจและหน้าที่ขององค์กรพร้อมกำหนดอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบและความสัมพันธ์ระหว่างองค์กรย่อยไว้ด้วย
ทั้งนี้ เพื่ออำนวยความสะดวกในการบริหารให้บรรลุเป้าหมายขององค์กร"(สมคิดบางโม,2554: 113)
จากความหมายข้างต้นสรุปได้ว่า "การจัดองค์กร (Organizing) คือ การตัดสินใจของผู้บริหารในการจัดสรรทรัพยากรต่าง
ๆ
ขององค์กรออกเป็นหมวดหมู่อย่างเป็นระเบียบและมีความสมดุลกันในด้านภารกิจอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบของแต่ละหน่วยงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล"
ภาพประกอบ
การจัดองศ์กรช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน
เป็นที่น่าสังเกตว่าในปัจจุบันการดำเนินงานของภาคธุรกิจมักจะเป็นองค์กรขนาดใหญ่หลายองค์กรพยายามที่จะขยายกิจการให้ครบวงจรบ้างก็ขยายสาขาเพื่อให้บุคลากรมีแนวทางที่ชัดเจนในการปฏิบัติงานไม่เกิดความซ้ำซ้อนในการทำงานผู้บริหารเองก็สามารถเรียกหาข้อมูลเพื่อประกอบการพิจารณาตัดสินใจได้สะดวก
ถูกต้องและรวดเร็ว การจัดองค์กรจึงมีความสำคัญต่อความสำคัญขององค์กร
ภาพประกอบ
การจัดองค์กรที่ดีช่วยลดปัญหาการทำงานที่ซ้ำซ้อน
การจัดองค์กรที่ดีช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานได้ทำงานตามความถนัดหรือตามความเหมาะสม
เช่น จากการจัดองค์กร องค์กรจะต้องมีการแบ่งแผนกงาน และจัดคนลงไปทำงานในแต่ละแผนก
ซึ่งการจัดคนไปในแต่ละแผนกนั้นผู้บริหารต้องคำนึงถึงความรู้ความสามารถและประสบการณ์
เพื่อจัดคนให้เหมาะสมกับงาน ถ้าผู้บริหารสามารถจัดคนให้เหมาะสมกับงาน
องค์กรก็ได้ประโยชน์สูงสุดจากการทำงานของพวกเขาเหล่านั้น
องค์กรเป็นที่รวมของคนและที่เป็นรวมของงานต่าง ๆ เพื่อให้พนักงานขององค์กรปฏิบัติได้อย่างเต็มประสิทธิภาพจึงจำเป็นต้องจัดแบ่งหน้าที่การทำงาน และมอบอำนาจให้รับผิดชอบตามความสามารถและความถนัด และตั้งหัวหน้างานขึ้นรับผิดชอบควบคุม ดังนั้นจะเห็นว่าการจัดองค์กรมีความจำเป็นและก่อให้เกิดประโยชน์หลายด้าน (สมคิด บางโม,2554: 114)
1.2ทำให้งานไม่ซ้ำซ้อนไม่มีแผนกงานมากเกินไปเป็นการประหยัดต้นทุนไปด้วย
1.3องค์กรสามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปได้งานตามความจำเป็น
ร
2.3 แก้ปัญหาการทำงานซ้ำซ้อนได้ง่าย
2.4 ทำให้งานไม่คั่งค้าง ณ จุดใดจุดหนึ่ง สามารถติดตามแก้ไขง่าย
2.5 การมอบอำนาจที่ได้ง่าย ขจัดปัญหาการเกี่ยงกันทำงานหรือปัดความรับผิดชอบ
3.3 การแบ่งงานให้พนักงานอย่างเหมาะสม ช่วยให้พนักงานมีความพอใจ ไม่เกิดความรู้สึกว่างานมากไปหรือน้อยไป
3.4 เมื่อพนักงานรู้อำนาจหน้าที่และขอบเขตงานของตน ย่อมก่อให้เกิดความคิดริเริ่มในการทำงาน
3.5 พนักงานเข้าใจความสัมพันธ์ของตนต่อฝ่ายอื่น ๆ ทำให้สามารถติดต่อกันได้ดียิ่งขึ้น
องค์กรเป็นที่รวมของคนและที่เป็นรวมของงานต่าง ๆ เพื่อให้พนักงานขององค์กรปฏิบัติได้อย่างเต็มประสิทธิภาพจึงจำเป็นต้องจัดแบ่งหน้าที่การทำงาน และมอบอำนาจให้รับผิดชอบตามความสามารถและความถนัด และตั้งหัวหน้างานขึ้นรับผิดชอบควบคุม ดังนั้นจะเห็นว่าการจัดองค์กรมีความจำเป็นและก่อให้เกิดประโยชน์หลายด้าน (สมคิด บางโม,2554: 114)
1 ประโยชน์ต่อองค์กร
1.1.การจัดโครงสร้างองค์กรที่ดีและเหมาะสมจะทำให้องค์กรบรรลุวัตถุประสงค์และเจริญก้าวหน้าขึ้นไปเรื่อย ๆ1.2ทำให้งานไม่ซ้ำซ้อนไม่มีแผนกงานมากเกินไปเป็นการประหยัดต้นทุนไปด้วย
1.3องค์กรสามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปได้งานตามความจำเป็น
2.ประโยชน์ต่อผู้บริหาร
2.2 บริหารงานง่าย สะดวก รู้ว่าใครรับผิดชอบอะไร มีหน้าที่ทำอะไ2.3 แก้ปัญหาการทำงานซ้ำซ้อนได้ง่าย
2.4 ทำให้งานไม่คั่งค้าง ณ จุดใดจุดหนึ่ง สามารถติดตามแก้ไขง่าย
2.5 การมอบอำนาจที่ได้ง่าย ขจัดปัญหาการเกี่ยงกันทำงานหรือปัดความรับผิดชอบ
3.ประโยชน์ต่อผู้ปฏิบัติงาน
3.2 ทำให้รู้อำนาจหน้าที่และขอบข่ายการทำงานของตนว่ามีเพียงใด3.3 การแบ่งงานให้พนักงานอย่างเหมาะสม ช่วยให้พนักงานมีความพอใจ ไม่เกิดความรู้สึกว่างานมากไปหรือน้อยไป
3.4 เมื่อพนักงานรู้อำนาจหน้าที่และขอบเขตงานของตน ย่อมก่อให้เกิดความคิดริเริ่มในการทำงาน
3.5 พนักงานเข้าใจความสัมพันธ์ของตนต่อฝ่ายอื่น ๆ ทำให้สามารถติดต่อกันได้ดียิ่งขึ้น
วัตถุประสงค์ของการจัดองค์กร
การจัดองค์กรถือเป็นกระบวนการในการจัดรายละเอียดของงานทุกอย่างที่ต้องกระทำและทรัพยากรมี่ต้องใช้เพื่อแบ่งงานและทรัพยากรให้กับสมาชิกในองค์กรดำเนินงานให้บรรลุเป้าหมายขององค์กร
และที่องค์กรจะเป็นระบบเปิดการจัดองค์กรจึงต้องคำนึงถึงระบบภายในการจัดแบ่งงานและทรัพยากรในองค์กรนี้จะสะท้อนถึงการแบ่งกลุ่มงานแผนกงานสายการบังคับบัญชาและกลไกลในการประสานงานในองค์กร(วรารัตน์
เขียวไพรี, 2542 : 89) ดังนั้น จึงสรุปได้ว่าการจัดองค์กรมีบทบาท ดังนี้ (เอกวิทย์ มณีธร,
2552 : 82-83)
1. เพื่อแบ่งงานกันทำโดยแยกเป็นแต่ละงาน แต่ละแผนก
หรือหน่วยงานตามความเหมาะสม
2. เพื่อมอบหมายงานและความรับผิดชอบให้แต่ละคนทำตามความรู้ความถนัด
3. เพื่อประสานงานต่าง ๆ
ให้ดำเนินไปอย่างสอดคล้องกันตลอดทั้งองค์กรตั้งแต่เริ่มต้นจนงานเสร็จ
4. เพื่อจัดงานออกเป็นกลุ่ม ๆ แต่ละกลุ่มจัดตั้งขึ้นเป็นหน่วยงานหรือแผนงาน
โดยเกณฑ์อย่างใดอย่างหนึ่ง
5. เพื่อกำหนดความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล
ระหว่างกลุ่มและระหว่างหน่วยงานหรือแผนงาน
6. เพื่อกำหนดสายการบังคับบัญชาอย่างเป็นทางการตลอดทั้งองค์กร
7.เพื่อจัดสรรใช้ทรัพยากรขององค์กรอย่างมีประสิทธิภาพและก่อให้เกิดประสิทธิผลสูงสุด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น